เมนู

ทั้งหลายเป็นอุปาทาน เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ เพราะภพ
เป็นปัจจัย จึงมีชาติ
(เพราะชาติเป็นปัจจัยจึงมีชราและมรณะ)1 ดังนี้.

แสดงปฏิจจสมุปบาทอย่างที่ 3


เหมือนอย่างว่า ในบุรุษเหล่านั้น คนหนึ่งเห็นปลายเถาวัลย์ก่อนเขา
จึงจับปลายสาวเอามาทั้งเถาจนถึงโคนตามแนวของปลายแล้วนำไปใช้ ฉันใด
พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ฉันนั้น ย่อมทรงแสดงปุฏิจจสมุปบาทตั้งแต่ข้อปลายจนถึง
แม้ข้อต้นว่า ชาติปจฺจยา ขรามรณนฺติ อิติ โข ปเนตํ ฯเปฯ อวิชฺชา-
ปจฺจยา สํขารา
ก็ข้อว่า ชราและมรณะมี เพราะชาติเป็นปัจจัย
ดังนี้นั้น เรากล่าวแล้ว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะชาติเป็นปัจจัย
ชราและมรณะจึงมี ในข้อนี้ เป็นอย่างนี้หรือมิใช่
(พวกภิกษุกราบทูล
ว่า) พระพุทธเจ้าว่า เพราะชาติเป็นปัจจัย ชราและมรณะจึงมี ใน
ข้อนี้ มีความเป็นอย่างนี้แลว่า เพราะชาติปัจจัย จึงมีชรามรณะ
ก็ข้อที่ว่า ชาติมีเพราะภพเป็นปัจจัย ดังนี้นั้นเรากล่าแล้ว ฯลฯ

(พระผู้มีพระภาคเจ้า) ก็ข้อที่ว่า เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร
ทั้งหลาย ดังนี้นั้น เรากล่าวแล้ว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะอวิชชา
เป็นปัจจัยจึงมีสงขารทั้งหลาย ในข้อนี้ เป็นอย่างนี้ หรือมิใช่
(พวก
ภิกษุ) พระพุทธเจ้าข้า เพราะอวิชชาเป็นปัจจัยจึงมีสังขาร ในข้อนี้
ก็เป็นอย่างนี้ว่า เพราะอวิชชาเป็นปัจจัยจึงมีสังขารทั้งหลาย
2ดังนี้
1. ม. มูล. เล่ม 12. 453/488 2. ม. มูล. เล่ม 12. 447/480

แสดงปฏิจจสมุปบาทข้อที่ 4


เหมือนอย่างว่า ในบุรุษเหล่านั้น คนหนึ่งเห็นท่ามกลางเถาวัลย์
นั่นแหละก่อน เขาก็ตัดตรงกลางจับสาวลงมาข้างล่างจนถึงโคนนำไปใช้การงาน
ฉันใด พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ฉันนั้นเหมือนกัน ย่อมทรงแสดงตั้งแต่ท่ามกลาง
จนถึงข้อต้นว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อาหาร 4 เหล่านี้ มีอะไรเป็นเหตุ
มีอะไรเป็นสมุทัย มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด. อาหาร
4 เหล่านี้ มีตัณหาเป็นเหตุ มีตัณหาเป็นสมุทัย มีตัณหาเป็นกำเนิด
มีตัณหาเป็นแดนเกิด. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ตัณหานี้ มีอะไรเป็น
เหตุ มีอะไรเป็นสมุทัย มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด.
ตัณหามีเวทนาเป็นเหตุ มีเวทนาเป็นสมุทัย มีเวทนาเป็นกำเนิด มี
เวทนาเป็นแดนเกิด. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฯลฯ เวทนา...ผัสสะ...
สฬายตนะ...นามรูป...วิญญาณ...สังขารทั้งหลายมีอะไรเป็นเหตุ
มีอะไรเป็นสมุทัย มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด สังขาร
ทั้งหลาย มีอวิชชาเป็นเหตุ มีอวิชชาเป็นสมุทัย มีอวิชชาเป็นกำเนิด
มีอวิชชาเป็นแดนเกิด
* ดังนี้.
ถามว่า เพราะเหตุไร พระองค์จึงแสดงเช่นนี้
ตอบว่า เพราะปฏิจจสมุปบาทเป็นธรรมเจริญรอบด้าน และพระผู้มี-
พระภาคเจ้าเล่าก็ทรงถึงความเป็นผู้งดงามด้วยเทศนา.
จริงอยู่ ปฏิจจสมุปบาทซึ่งเป็นธรรมเจริญรอบด้าน ย่อมเป็นไป
พร้อมเพื่อแทงตลอดญายธรรมโดยเทศนานั้นนั่นแหละ อนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า
* ม. มูล เล่ม 12 446/479